อันนี้เป็นโจทย์ต่อเนื่องจาก Parts of Speech คราวที่แล้ว… เพิ่งนึกได้ว่าอันนั้นควรจะเป็นการใช้ทักษะ reading/writing แต่สิ่งที่ทำไปคือ watching/writing เพราะดูวิดีโอแทนการอ่านบทความในหน้าเว็บ 😅

ส่วนครั้งนี้น่าจะเป็นการทดสอบทักษะ listening/speaking โดยมีโจทย์คือให้ดูวิดีโอเรื่องการจัด priority ในชีวิต เนื้อหาก็ประมาณนี้

TL;DW: ถ้าเรามีการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำในชีวิต โดยทำสิ่งสำคัญก่อน (rocks) แล้วค่อยใช้เวลา/พลังที่เหลือ ไปทำสิ่งที่สำคัญในลำดับรองๆ ลงมา (pebbles and sand) และใช้ความพยายามอีกหน่อย (เขย่าขวดโหลให้ทุกสิ่งมันไหลๆ ลงไป) เราก็จะสามารถจัดการทุกสิ่งในชีวิตได้ดี เหมือนที่เราสามารถใส่ทุกสิ่งอย่างลงไปในขวดโหลได้

และคำถามที่จะใช้เป็นหัวข้อในการคุยกับคนสัมภาษณ์ก็คือ “What are your big rocks?”

ถ้าคุยปกติว่าได้ข้อคิดอะไรจากวิดีโอ ก็คงเป็นคล้ายๆ ที่สรุปไว้ข้างบน แต่ผมดูวิดีโอแล้วรู้สึกไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวซักเท่าไหร่ เลยเป็นที่มาของบล็อกนี้ 🤪 ซึ่งประเด็นที่ผมคุยกับคนสัมภาษณ์ก็คือ

1. There is no real “big rocks”

ในวิดีโอกำหนดความสำคัญของแต่ละสิ่งไว้ตายตัว เช่น “family → rock”, “work → pebble” หรือ “playing games → sand” แต่ผมมองว่าความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับกาลเทศะ (time and place) เช่น ในขณะที่สัมภาษณ์นี้ big rock ของผมคือ “work” แต่ถ้าเป็นนอกเวลางาน big rock ของผมอาจจะเป็น “family” หรือ “health” ส่วน “work” ก็อาจจะมีความสำคัญลดลง กลายเป็น pebbles หรือ sand ไป (โดนแซวว่านี่มันแนวคิดเดียวกับ relativity theory ของไอนสไตน์หรือเปล่า 😑)

ดังนั้นในความเห็นของผม big rocks ไม่มีอยู่จริง ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่เราให้ความสำคัญในขณะนั้นคืออะไรมากกว่า

2. The jar size can be changed

ในวิดีโอเปรียบเทียบขวดโหลเป็น time/energy ที่เรามีจำกัด สำหรับการจัดการสิ่งต่างๆ ในชีวิต แต่ผมมองว่าขวดโหลคือ capacity ของตัวเรา ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงขนาดได้ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก (internal & external factors)

You can expand the jar from inside

อันนี้ผมให้เหตุผลว่า ถ้าเรามีการพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น mentally, physically หรือมีการพัฒนาทักษะในการทำกิจกรรมบางอย่าง เราจะมี capacity ในการจัดการกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ดีกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม หรือมากกว่าเดิม (ใส่สิ่งต่างๆ ลงในขวดโหลได้มากขึ้น) ถ้าเรามองว่าความสำคัญของสิ่งเหล่านั้น (size of rocks) ไม่ได้ลดลง แสดงว่าสิ่งที่ใหญ่ขึ้นคือ size of jar

You can expand the jar from outside

อันนี้อาจจะดู extreme ไปหน่อยถ้าเทียบกับคอนเซปต์ที่วิดีโอต้องการสื่อ แต่ผมมองว่า capacity ของขวดโหล สามารถขยายได้ด้วยเงิน 🤑 ขี้เกียจยกตัวอย่าง แต่คงจะพอนึกกันออกว่า ถ้าใช้เงิน เราจะสามารถประหยัดเวลา/พลังงาน ในการทำสิ่งต่างๆ ได้มากมาย (because you can buy time with money)

แน่นอนว่าต้องโดน counterargument ว่าบางอย่างก็ซื้อด้วยเงินไม่ได้นะ เช่น health เป็นต้น

ผมเลยตอบไปว่า ถ้าผมมีเงินมากพอ ผมสามารถพาทุกคนในครอบครัวบินไปอเมริกา เพื่อรับวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพในการต้าน COVID-19 สูงกว่าวัคซีนที่มีในประเทศตอนนี้ โดยไม่ต้องรอจองคิวเป็นเดือนๆ เป็นการ ensure wellbeing ของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถใส่ไปในขวดโหลได้ ถ้าไม่มีเงิน 😆

Summary

สรุปว่าได้พูดสิ่งที่คิดค่อนข้างครบถ้วน ในเวลาที่คุยกันประมาณ 10 นาที — คหสต. คิดว่าคะแนน listening/speaking ไม่น่ามีปัญหา แต่คะแนน attitude อาจจะติดลบ 😈

ป.ล. สิ่งเดียวที่เห็นด้วยกับวิดีโอคือใน comments บอกว่าจริงๆ เรายังเทเบียร์ใส่ลงไปในขวดโหลได้อีก (there is always time for a beer…) 🍺 555+